ฮ่องกง ใช้มาตรการเข้มในการสกัดโควิด ด้วยการ เตรียมสังหารหมู่ ฆ่าหนูแฮมสเตอร์ 2 พันตัว หลังพบโควิดระบาดในร้านขายสัตว์เลี้ยง เมื่อวันที่ 19 มกราคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการฮ่องกงได้สั่งให้ประชาชนที่ซื้อแฮมสเตอร์จากร้านขายสัตว์ “ลิตเติล บอส” ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม ให้ส่งมอบแฮมสเตอร์ เพื่อนำแฮมสเตอร์ไปฆ่า หลังจากมีรายงานว่ามีแฮมสเตอร์ 11 ตัว ติดโควิด-19
โดยเจ้าหน้าที่แสดงความกังวลว่านี่อาจจะเป็นการแพร่เชื้อจากสัตว์ไปสู่คน
หลังจากที่ เจ้าของร้านและภรรยา รวมถึงลูกค้าติดโควิดเช่นเดียวกัน ซึ่งทางการฮ่องกงยืนยันว่า ทางร้านปฏิบัติตามมาตรการโควิดอย่างเคร่งครัด จากคำสั่งนี้คาดว่าจะมีแฮมสเตอร์และสัตว์ขนาดเล็กกว่า 2 พันตัวถูกสังหาร ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติม ไม่พบว่าสัตว์ชนิดอื่น อย่างกระต่ายหรือสุนัขติดโควิดจากการแพร่ระบาดครั้งนี้
ซึ่งทางการฮ่องกงแนะนำให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของแฮมสเตอร์เลี่ยงออกนอกเคหสถาน และเฝ้าสังเกตอาหาร พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าพวกเขาจะการุณยฆาตสัตว์เลี้ยงอย่างมีมนุษยธรรมที่สุด
ด้านประชาชนได้ออกมาคัดค้านนโยบายดังกล่าว และร่วมลงชื่อต่อต้านคำสั่งนี้ ซึ่งประชาชนระบุว่า สัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ และจากคำสั่งของรัฐบาลทำให้พวกเขาต้องสูญเสียเพื่อนรักของเขาอย่างไม่เป็นธรรม
ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เคยได้ออกมาเปิดเผยว่า สัตว์สามารถติดโควิดจากมนุษย์ได้จริง อย่างไรก็ตามยังไม่พบหลักฐานชี้ชัดว่า มนุษย์สามารถติดโควิดจากสัตว์ได้
เกิดเหตุตะลุมบอนขึ้น หลังจากที่มีหญิงคนหนึ่งเข้าไปเตือน หญิงเปลือยอก ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 มกราคม สำนักข่าว เดอะ มิลเลอร์ ได้รายงานถึงเหตุการณ์สุดประหลาดที่เกิดขึ้นในงานแข่งรถจักรยานยนต์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
โดยในระหว่างการแข่งขันนั้นก็มีหญิงคนหนึ่งได้เปลือยอกต่อหน้าคนดูคนอื่น ท่ามกลางเสียงเชียร์ของชายหนุ่ม อย่างไรก็ตามใช่ว่าทุกคนจะปลื้มกับความใจดีของหญิงคนนี้ เพราะหญิงอีกคนได้ตรงไปก่อนจะพยายามหยุดการกระทำของหญิงเปลือยอก พร้อมอธิบายว่า ในสนามมีเด็กด้วย
อย่างไรก็ตามการเตือนของเธอนั้น ได้ทำให้สถานการณ์แย่ลง เพราะผู้ชายในบริเวณดังกล่าวได้โห่ พร้อมกับสาดเบียร์ และมีบางคนเข้าไปผลักใส่หญิงที่เข้าไปเตือน ก่อนนำไปสู่เหตุทะเลาะวิวาทในที่สุด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า พวกเขาได้รับรายงานถึงเหตุทะเลาะวิวาที่เกิดขึ้นในสนามสองครั้ง และทางเจ้าหน้าที่ได้ไล่ผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทออกจากสนามแล้ว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีใครกล่าวถึงการเปลือยอก เบื้องต้นไม่มีการจับกุมจากเหตุวุ่นวายครั้งนี้
แผ่นดินไหวอัฟกานิสถาน คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 26 ศพ
เกิดเหตุ แผ่นดินไหวอัฟกานิสถาน ส่งผลให้บ้านเรือนถูกทำลายมากกว่า 700 หลัง และมีผู้เสียชีวีตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 26 ศพ เมื่อวันที่ 18 มกราคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวสองครั้งในทางตะวันตกของประเทศอัฟกานิสถาน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 ศพ และมีบ้านเรือนเสียหายกว่า 700 หลัง
โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมี ผู้หญิงรวมอยู่ด้วย 5 ศพ และเป็นเด็กอีก 4 ศพ ทั้งนี้จำนวนผู้เสียชีวิตอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าแผ่นดินไหวลูกแรกมีขนาด 5.3 ส่วนแผ่นดินไหวลูกที่สองมีขนาด 4.9 ซึ่งแผ่นดินไหวครั้งที่สองนั้นเกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหวครั้งแรก 2 ชั่วโมง
เหตุแผ่นดินไหวนั้นสามารถสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของอัฟกานิสถานได้อย่างมาก เนื่องจากบ้านเรือนและอาคารของอัฟกานิสถานไม่แข็งแรงและไม่สามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้
และหากย้อนกลับไปในปี 2558 นั้น ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากโศกนาฎกรรมครั้งนั้นเกือบ 280 ศพ
วิจารณ์สนั่น หลังจากที่ หญิงญี่ปุ่น ประกาศ บริจาคลูก หลังโดนผู้บริจาคสเปิร์มหลอก ว่าคนญี่ปุ่นๆ ทั้งที่เป็นคนจีน พร้อมเดินหน้าฟันเงินอีก 80 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มกราคม สำนักข่าว เดอะ ซัน รายงานว่า หญิงชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในกรุงโตเกียวในช่วงอายุ 30 ปี ได้ประกาศบริจาคลูกของเธอ พร้อมฟ้อง “ผู้บริจาคสเปิร์ม” เป็นเงินกว่า 80 ล้านบาท หลังจากที่เธอทราบว่าผู้บริจาคน้ำเชื้อให้เธอนั้นให้ข้อมูลโกหกกับเธอ
โดยหญิงคนดังกล่าวเล่าว่า เธอกับสามีคนปัจจุบันมีลูกด้วยกันหนึ่งคน แต่สามีของเธอคนมีอาการทางพันธุกรรม ทำให้เธอไม่อยากมีบุตรอีกคนหนึ่ง เธอจึงประกาศหา “ผู้บริจาคสเปิร์ม” ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และทำให้เธอพบกับชายคนหนึ่ง
ชายคนดังกล่าวระบุว่าเขาจบจากมหาวิทยาลัยเกียวโต มหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น และทั้งสองร่วมหลับนอนด้วยกันกว่า 10 ครั้ง ก่อนที่เธอจะทราบว่าเธอตั้งครรภ์ในช่วงเดือนมิถุนายน 2562
ทั้งนี้เธอก็ทราบความจริงว่าชายคนดังกล่าวนั้นไม่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยเกียวโต และไม่ใช่แค่นั้น เขาไม่ใช่คนญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ แต่เป็นชาวจีน และนำไปสู่การฟ้องร้องและการตามหาผู้อุปถัมภ์
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง